เมื่อการตัด Bevel Cutting กลายเป็นไม้เด็ดของงาน Steel FAB
Home » Blog » เมื่อการตัด Bevel Cutting กลายเป็นไม้เด็ดของงาน Steel FAB

เมื่อการตัด Bevel Cutting กลายเป็นไม้เด็ดของงาน Steel FAB
Article Category: Blog Post Date: September 15, 2021

เมื่อการตัด Bevel Cutting กลายเป็นไม้เด็ดของงาน Steel FAB

Bevel Cutting มีไว้ทำไม งานวิศวกรรมโครงสร้างโลหะในสายงาน joining structure และงานเชื่อมประกอบชิ้นส่วนนั้นคุ้นเคยและรู้จักวิธีการทำงานประเภทนี้กันมาเป็นอย่างดี

อุตสาหกรรมที่นิยมใช้ Bevel Cutting กันมากได้แก่อุสาหกรรมตัดโลหะหนาซึ่งโดยมากจะมีขนาดความหนาไม่ต่ำกว่า 6 mm พบมากในอุสาหกรรมชิ้นส่วนงานก่อสร้าง ชิ้นส่วนประกอบโครงสร้าง ชิ้นส่วนงานเชื่อมที่ต้องการความแข็งแรงตรงแนวเชื่อมเป็นพิเศษ

การตัดงานแบบ Bevel นั้นมีประโยชน์ทางวิศวกรรมทั้งในส่วนการเพิ่มพื้นที่ผิวให้เกิดเนื้อที่หลอมละลายในการเชื่อมมากขึ้น และในการประกอบบางรายการก็ยังทำให้แนวความเอียงของเนื้อวัสดุกลายเป็นจุดรับน้ำหนักในแนวดิ่งหรือล็อควัสดุเข้าด้วยกันเบื้องต้นก่อนเชื่อมแข็ง

เครื่องตัดเลเซอร์_Fiberlaser_Bevel_HSG_Wongtanawoot_วงศ์ธนาวุฒิ

เลือกเครื่องตัด Bevel ต้องคำนึงถึงสิ่งใด

1. อย่าเข้าใจผิวว่าต้องเรียบใสกิ๊ก แนวเชื่อมที่ดีควรมีความหยาบของผิวแบบพอประมาณ ไม่หยาบเกินไปเพราะน้ำโลหะจจะไม่สามารถหลอมละลายแทรกซึมเข้าไปเติมเต็มระหว่างเนื้อผิวทั้งสองได้ดีพอจนขาดสภาพการยึดเหนี่ยว และก็ไม่เรียบจนเกินไปซึ่งทำให้การไหลเดินของน้ำเหล็กที่พาความร้อนเข้าไปประสานนั้นเป็นไปได้ยาก

2. ตอบโจทย์การใช้งานทางวิศวกรรมด้านกำลังและการนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ TOP หรือ BOTTOM Bevel/Land ก็ตาม เช่น

Bevel ตัว A: สำหรับงานเชื่อมเติมเนื้อทั่วไปที่เว้นร่องไว้ให้เชื่อมพอกเพื่อเพิ่มเนื้อเหล็กให้สองแผ่นประสานกันอย่างเหนียวแน่น

Bevel ตัว Y: เติมเนื้อในส่วนบนและปล่อยให้น้ำเหล็กที่หลอมละลายไหลลงประสานในส่วนล่างที่บีบชนกันอยู่

Bevel ตัว X: เป็นการเติมเนื้อเชื่อมพอกให้กับทั้งด้านบนและด้านล่างของแนวเชื่อม

และอื่นๆ

  1. ต้นทุนและงบประมาณ

สิ่งท้าทายคือลงทุนประหยัด ตัดด้วย Plasma Bevel Cutting แต่อาจมีข้อด้อยที่ต้องพิจารณาเมื่อเทียบกับทางเลือก Fiber Laser Bevel Cutting ที่ตัด Bevel ด้วยเครื่องตัดเลเซอร์แบบหัวเอียง 45 องศา ซึ่งอาจมีราคาแพงแต่ให้ความสวยงามและความรวดเร็วที่มากกว่า

  1. ขนาดของโต๊ะ

โดยมากขนาดของโต๊ะที่นิยมใช้งานกันจะไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตรโดยความกว้าง เพราะมาตรฐานเหล็กในงาน Steel Plate แต่บางรายการก็จะมีความต้องการในหน้ากว้างถึง 2 เมตร เพราะเป็นงานสเปคที่เน้นความเหนียวของพื้นที่และลดค่าแรงเชื่อมประกอบ ซึ่งบางรายการอาจจะต้องการความกว้างถึง 3 เมตรเพื่อวางแผ่น 5×10’ในแนวขวางสำหรับการทำงานเฉพาะประเภท

  1. ความเร็วในการทำงาน

ความเร็วของการตัด Bevel นั้นประกอบไปด้วย

5.1 ความเร็วในการเดินตัวเปล่า

5.2 ความเร็วในการตัดงานเมื่อใช้ความร้อน

5.3 ความเร็วในการเจาะรู

5.4 ความเร็วในการประมวลผลสำหรับโปรแกรมที่มความซับซ้อน

เครื่องตัดพลาสม่านั้นจะเสียเปรียบเครื่องตัดเลเซอร์ Fiber Laser Bevel Cutting ด้วยความเร็วทั้ง 5 ประการ

  1. ต้นทุนในการตัดงาน

ต้นทุนกลายเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดของ Fabricator สำหรับการรับงานเพราะโดยมากงานที่มีประมาณมากและเป็นงานต่อเนื่องที่รับงานกันเป็นโปรเจคยาวๆ นั้นแข่งกันที่ Cost/Part ต้นทุนที่สำคัญในการตัด Bevel Cutting ได้แก่

6.1 ต้นทุนค่าสิ้นเปลือง เมื่อเปรียบเทียบการตัดระหว่าง Plasma กับ เครื่องตัดเลเซอร์นั้น ต้นทุนค่าสิ้นเปลืองในด้าน consume ของเครื่องตัดเลเซอร์ประหยัดกว่ามากถึง 10 เท่า

6.2 ต้นทุนด้านเวลา เวลากลายเป็นต้นทุนหลักของการคืนทุนในสมการ IRR หากผู้ประกอบการที่มีงานต่อเนื่องเข้าคิวกันยาวและมีประเด็นเรื่องคอขวดด้านเวลาในการผลิตชิ้นส่วนที่มีรายละเอียดในการตัดเจาะมาก การใช้เครื่องตัดเลเซอร์ Fiber Laser Bevel Cutting ย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าได้ง่ายและไวมากขึ้น

  1. การรักษาสิ่งแวดล้อม

การตัดงาน Steel Plate นั้นใช้พลังงานเพื่อสร้างความร้อนและสร้างมลภาวะภายในบริเวณมากกว่าการตัด sheet metal ซึ่งมีขนาดบางกว่า ฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในบริเวณเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สภาพแวดล้อมมีประเด็นกับการตรวจสอบระดับฝุ่นในโรงงาน หากผู้ประกอบการที่มีความใส่ใจด้าน Carbon Footprint เป็นประเด็นสำคัญในการขอเงินสนับสนุนจจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมแล้ว การใช้เครื่องตัดเลเซอร์ Bevel Cutting ย่อมเป็นแต้มต่อของการประหยัดที่เหนือกว่าด้วยการประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้มากถึง 50% ต่อเดือนจากปริมาณการทำงานที่เท่ากัน

เครืองตัดเลเซอร์ Bevel Cutting Fiber Laser ที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ประกอบการจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและทำให้เกิดนวัตกรรมด้านวิศวกรรมโครงสร้างโลหะที่แปลกแตกต่างได้เป็นอย่างมาก

HSG by Wongtanawoot ขอนำเสนอเครื่องตัดเลเซอร์ HSG GF-B ระบบตัดแบบ Bevel Cutting 

ระบบBevel cutting ที่ผสานความลงตัวของการตัดงานขนาดใหญ่ หนา และมีความซับซ้อน เข้ากับการประหยัดงบประมาณ Cost /Part ทั้งค่าไฟฟ้าและค่าสิ้นเปลือง โดยเน้นหัวใจสำคัญที่การสร้างผิวที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วยความเร็วในการตัดสูงตามแบบฉบับของ Fiber Laser Bevel Cutting

  • ระบบกาทำงานของเครื่องตัดเลเซอร์ HSG GF-B ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วยระบบ Front and Rear Light Guard
  • หัวตัดเลเซอร์เอียงได้มากสุดถึง 45 องศา
  • กำลังตัดของ Fiber Laser ทำได้สูงถึง 20kW
  • ความหนาของงานที่มีความสวยงามได้มากถึง 25-30 มม. ในรูปแบบ Bevel Cutting
  • ระบบการดูดควันและฝุ่นผงจากการตัดด้วยพัดลม high speed double ventilation รักษาสภาพแวดล้อมให้กับโรงงาน
  • Modular Cutting Bed ต่อความยาวโต๊ะตัดงานได้ต่อเนื่องด้วยระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความหากหลายของ user อย่างลงตัวในเรื่องความยาวของชิ้นงาน เช่น งานสะพาน งานต่อเรือ งานโครงสร้างเหล็กรูปพรรณขนาดใหญ่
  • เคลือนที่ตัวเปล่าความเร็วสูงสุดถึง 80m/min
  • ระบบปฏิบัติการ HSG-X series ที่ใส่ใจด้านการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง
  • ระบบ Cutting Parameter ที่พร้อมใช้งานเพื่อรองรับกับคำสั่งการทำงานและชิ้นงานที่แตกต่างหลากหลาย ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูก ลดความเสียหายจากการคาดเดา และอื่นๆ อีกมาก
เครื่องตัดเลเซอร์_Fiberlaser_Bevel_HSG_Wongtanawoot_วงศ์ธนาวุฒิ
เครื่องตัดเลเซอร์_Fiberlaser_Bevel_HSG_Wongtanawoot_วงศ์ธนาวุฒิ
เครื่องตัดเลเซอร์_Fiberlaser_Bevel_HSG_Wongtanawoot_วงศ์ธนาวุฒิ

เครื่องตัดเลเซอร์ HSG GF-B Series สำหรับการตัดงาน Bevel Cutting จะเพิ่มอาวุธในการล็อคใจ end user ให้กับผู้ใช้งานด้วยเทคโนโลยีที่แตกแต่งอย่างเหนือชั้น ตอบโจทย์วิศวกรรมงานดีไซน์ที่ทำให้โครงสร้างโลหะกลายเป็นงานสนุกสำหรับทุกโปรเจค

Wongtanawoot จัดส่งเครื่องตัดเลเซอร์คุณภาพเยี่ยม ยอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศจีนในปี 2020 พร้อมเทรนนิ่งโปรแกรม 3D แบบสอนหมดเปลือก เพื่อเพิ่มความรู้ ทักษะการทำงาน รวมไปถึงการหาช่องทางตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทั้งผู้ใช้งานหน้าใหม่และผู้ใช้งานที่ต้องการต่อยอดความรู้ เพราะเราทราบดีว่าโอกกาสของวิศวกรรมดีไซน์ไม่ได้อยู่ที่ใครมีเครื่องดีเท่ากับมีวิธีที่ทำเงินได้ง่าย ได้เร็ว และได้จริง